ตอนนี้กระแสของหนังเรื่อง อันโกะ กลรักสตรอเบอรรี่กำลังมาแรงทำให้คนดูที่ไม่เคยได้ยินอาชีพ Head Hunter มารู้จักอาชีพนี้กันมาขึ้น ไหนๆชมพู่เค้าก้อช่วยดันแล้ว เดี๊ยนก็เลยขอเกาะกระแสแรงบ้างใในฐานะอดีต Head Hunter ตัวแม่ ก่อนอื่นเลย ขออธิบายว่า Head Hunter น่ะ เค้าทำอะไรกันแน่
คิดว่าคุณๆคงได้ยิน หรือได้ใช้บริการ”บริษัทจัดหางาน”หรือ Recruitment Company กันมาบ้าง Head Hunter ก็จัดอยู่ในจำพวกเดียวกัน เวลาจดทะเบียนบริษัท ก็ต้องจดเหมือนๆกันกับบริษัทจัดหางานทั่วๆไป แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือวิธีการในการหาคน หรือ วิธีการในการสรรหา (Recruit)
บริษัทRecruitment ทั่วๆไปเค้าจะมีระบบdatabase เก็บresume ของเราเอาไว้เวลาที่เราสมัครงานเอาไว้ เมื่อมีลูกค้าต้องการคนที่มีประสบการคล้ายคลึงกับประสบการณ์ของคุณๆ เค้าก็จะหาresumeคุณจากDatabaseนี่แหละ โดยเค้าจะใช้ Key Word ในการหา ภาษา Recruiter เค้าเรียกกันว่า Key word search ซึ่งก็คือการหาคำที่เราต้องการจาก resume ในระบบนั่นเอง แล้วก็จะเรียกคนที่มีคุณสมบัติตาม key word มาสัมภาษณ์ ดูบุคลิก แล้วส่งข้อมูลให้ลูกค้า บริษัทแบบนี้ในบ้านเราจะเยอะมาก ทั้งบริษัทเทศและไทย มีให้เลือกกันหลากหลาย
ส่วน Head Hunter นั้น กลวิธี เอ่อ หรือ ยุทธวิธีในการสรรหาคนนั้นมันลึกซึ้งกว่านั้นมาก ถ้าไม่อย่างงั้นอันโกะคงไม่ยอมลงทุนลางานสองเดือนเพื่อให้ได้หัวของด็อกเตอร์แสนขนาดนั้นแน่นอน
ส่วนใหญ่ คนที่เป็นเป้าหมายของHead Hunter จะเป็นคนที่มีงานที่ดีๆทำอยู่แล้ว แสดงว่าเค้าทำงานเก่งและทำได้ดี เค้าถึงอยู่ได้ โตได้ คนตกงานถ้าประวัติไม่แน่นปึ้กพอที่จะส่งให้ลูกค้าได้เนี่ยก็อาจได้รับการพิจารณาน้อยหน่อย
เวลาหาคน Head Hunter ก็จะหาข้อมูลมากมายเกี่ยวกับบริษทลูกค้า และลูกค้าต้องการคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร แล้วถึงค่อยไปสืบเสาะหาบุคลากรที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ Head Hunter เก่งๆจะรู้ข้อมูลบริษัทเยอะมากว่าแต่ละบริษัททำธุรกิจยังไง วัฒนธรรมองค์กรเป็นแบบไหน คนที่จะเข้ามาทำงานต้องเป็นคนลักษณะไหนถึงจะประสบความสำเร็จในองค์กรนั้นๆ ดังนั้น Head Hunter ต้องมีข้อมูลมากทีเดียวก่อนจะไปจีบใครมาเป็น Candidate
เนื่องจากบางคนไม่ได้คิดจะเปลี่ยนงาน เพราะยังมีความสุขกับที่ทำงานเดิมอยู่ คุณๆพวกนี้จะไม่มี resume ที่เตรียมพร้อมสำหรับสมัครงาน เราเรียกพวกนี้ว่า Passive Candidate การจะนำเสนองานให้คุณ Passive Candidate นี่เป็นงานที่ท้าทายความสามรถของ Head Hunter เป็นอย่างมากเพราะมีความเสี่ยงสูงที่คุณเธอจะเปลี่ยนใจตลอดเวลา
คุณเธออาจจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง หรือโดนที่เก่าดึงตัวไว้ Counter Offer และโอกาสเช่นนี้เกิดขึ้นเสมอๆ ถ้า Head Hunter ไม่สามารถคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติและความเข้ากันกับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ได้ อาจจะได้ทำงานฟรีๆ เพราะโดนปฏิเสธงานนาทีสุดท้าย ด็อกเตอร์แสนสุดหล่อก็เป็นตัวอย่างของPassive Candidate
หลังจากเสนองานกันทางโทรศัพท์แล้ว ต้องมีการสัมภาษณ์ดูตัวกัน อันนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของแต่ละบริษัทว่าจะมีความเก่งกาจในการสัมภาษณ์ อ่านเกมส์ของคุณ Passive Candidate มากน้อยแค่ไหน
คงไม่ต้องพูดถึง Active Candidate กันมาก เพราะคุณๆเค้ามี resume พร้อมยื่นและเปิดรับข้อเสนอจาก Head Hunter ตลอดเวลา พวกนี้จะง่ายหน่อย แต่ก็ไม่ง่ายทั้งหมดเพราะคุณเธออาจมองเราเป็นแค่ตัวเลือกไปต่อรองกับที่อื่นได้ถ้างานเราไม่ตรงใจเค้าจริงๆ
ผู้เขียน: From the Head Hunter
ถ้าเป็น Head Hunter แบบ Executive Search Firm ซึ่งในบ้านเรามีไม่ถึงสิบบริษัท เค้าจะสัมภาษณ์โดยใช้ Behavioral Interview Technique เอาไว้จะมาอธิบายต่อคราวหน้าเรื่องการสัมภาษณ์ แต่ถ้าเป็น Head Hunter แบบเอาเร็ว ค่าจ้างทำไม่สูงนักก็จะ ไม่เคร่งครัดในการสัมภาษณ์มากนัก สัมภาษณ์เจอตัวและคุยกันเล็กน้อยก็จบ ทำรายงานส่งลูกค้าไป Head Hunter แบบไม่เจอตัวเลยก็มี คือส่งresume ให้ลูกค้าหลังคุยโทรศัพท์ อันนี้เป็นแบบงานด่วน หรือค่าจ้างทำต่ำ แต่ก็ไปเสี่ยงเอาอีกทีว่าCandidate ดีจริงมั้ย
ความแตกต่างของ Recruiter กับ Head Hunter คือวิธีการสรรหา ถ้าหาจาก Database เราเรียกว่า Recruiter แต่ถ้าสรรหาแบบสืบค้นจากองค์กรและติดต่อเค้ามาเป็น Candidate เรียกว่า Head Hunter ง่ายๆก็คือ ค้นหาหัวนั่นเอง
หวังว่าคุณๆคงเข้าใจกับงานอันน่าท้าทายของ Head Hunter กันไม่มากก็น้อยนะคะ ติดตามตอนต่อไปค่ะ
ที่มา: https://www.facebook.com/fromtheheadhunter โดยได้รับอนุญาตจากผู้เขียน
Recent Comments